วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การปฏิวัติฝรั่งเ้ศส

แมกซิมิลเลียน โรแบสปิแอร์ (Maximillen Robespierre) ผู้อยู่เบื้องหลังในการปฏิวัติฝรั่งเศส
เกิด 6 พ.ค 1758 เมืองอารัส ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะ ผู้ที่กล่าวหาพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส และพระนางมาลีว่า ได้ทรงกระทำการในสิ่งที่เป็นการขายชาติ ทั้งยังเรียกร้องให้ประหารชีวิตทั้งสองพระองค์อีกด้วย เรื่องทั้งหมดเริ่มด้วยเพราะมีกระแสในเรื่องมหากษัตริย์แห่งฝรั่งเศส ไม่ใย่ดีประชาชนปล่อยให้อดตาย โดยในปี 1788 เกิดความแห้งแล้งขาดแคลนอาหารมากนับว่าเป็นอีกครั้งในรอบ 60 ปี ขนมปังจึงมีราคาสูงขึ้นทำให้เกิดการกักตุนอาหาร คนต้องใช้รายได้ทั้งเดือนมาหาซื้อขนมปังในวันเดียว ทำให้เกิดจลาจลขึ้นทั่วไปเพื่อปล้นขนมปัง แมกซิมิลเลียน ไม่พอใจที่พรเจ้าหลุยส์ไม่ยอมทำอะไรนอกจากจ้าง รัฐมนตรีการคลัง จ้าค เนกเกอร์ ด้วยเงินหลายสิบล้าน เพื่อเยื่อชีวิตประเทศต่อไปได้อีกวัน เป็นเวลาไม่นานฝรั่งเศส ถูกแทกรโดยประเทศใกล้เคียง รัสเซีย สเปน
ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1789 จึงยกขบวนประมาณ 800 คนไปที่คุกบาสตีย์ (Bastille) ซึ่งใช้เป็นที่ขังนักโทษการเมืองเข้าฆ่าทหารในคุกด้วยมีดและหอก และนำหัวของผู้คุมคุกมาเสียบประจานบนหอก เขาจึงกลายเป็นจอมเผด็จการอย่างแท้จริง ในวันต่อมา แมกซิมิลเลียน กับแนวร่วมได้ประกาศการปฏิวัติฝรั่งเศส การบุกคุกบาสตีย์ ทำให้การปฏิวัติไม่มีการหันหลังกลับ แต่เป็นการปลดปล่อยประชาชนออกจากอดีตและเป็นการโค่นล้มทรราช ประชาชนทำการพังคุกนี้ด้วยมือเปล่า ขนหินแต่ละก้อนออกมาเพื่อทำลายสัญลักษณ์แห่งการกดขี่ทั้งมวล
http://www.youtube.com/watch?v=M7FG0NoYkHk
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ได้มีกฎหมายชื่อว่า คำประกาศแห่งสิทธิของมวลมนุษย์ ซึ่งประกอบด้วยหลักการสำคัญ 3 ข้อที่เป็นอุดการณ์ของการปฏิวัติฝรั่งเศส คือ เสรีภาพ (liberty) เสมอภาค (equality) และภราดรภาพ (fraternity) ในเวลาต่อมาพวกซองกูลอตถือว่าพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตจำนวนมากของชาวฝรั่งเศสที่พระราชวังตุยเลอรี พระเจ้าหลุยส์สที่ 16 จึงถูกประหารด้วยกิโยตีนเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 1793 สมัยปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้นเมื่อมีการออกกฎหมายเดือน มิ.ย. 1794 ระบุว่าศัตรูของประชาชนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลปฏิวัติแห่งกรุงปารีส และถูกพิพากษาตามความพอใจของคณะลูกขุนมากกว่าหลักฐานอื่นใด จำเลยจะไม่ได้รับสิทธิของคำปรึกษา แก้คดีและคำตัดสินก็มีเพียงให้ปล่อยตัวหรือให้ประหาร
ภายใน 9 สัปดาห์ที่ใช้กฎหมายนี้จำนวนพลเมืองที่ถูกศาลปฏิวัติตัดสินประหารมีจำนวน 1,600 คนสตรีถูกข่มขืนอย่างทารุณ การกระทำนี้ถูกประณามไปทั่วยุโรป คณะปฏิวัตินำโดย นำโดยโรแบสปิแอร์ ได้มีการประการสังหารหมู่กบฏและพระนับร้อยนับพันคน ฝรั่งเศสจมลงสู่ก้นบึ้งความสิ้นหวัง แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดซะทีเดี่ยว เพราะในความมืดยังมีแสงสว่างอยู่ที่กำลังมาเพื่อปลดปล่อยผู้คนอยู่ และในที่สุดอัศวินขี่ม้าขาวก็ปรากฏตัวขึ้นนามนั่นคือ นโปเลียน โบนาปาร์ต
กองทัพฝรั่งเศสนำโดยนายทหารชื่อ นโปเลียน โบนาปาร์ต ขับไล่อังกฤษออกไปได้ และได้เขาทำศึกกับคณะปฏิวัติถึง 3 ครั้ง และในที่สุดเขาได้ทำให้สงครามสงบลง 5 กุมภาพันธ์ 1794 โรเบสปิแอร์ และคนสนิทผู้นำในการต่อสู้ป้องกันประเทศถูกจับกุมและถูกประหารเป็นพันคน
หลังจากพยายามฆ่าตัวตายจนบาดเจ็บสาหัส ต่อมาจึงถูกประหารด้วยเครื่องกิโยตินในวันที่ 28 ก.ค. 1794 ก็นับเป็นการสิ้นสุดสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว หลังจากนั้นอีก 5 ปีอำนาจได้ตกมาสู่นโปเลียน โบนาปาร์ต การปฏิวัติจึงสิ้นสุดลง และทำให้ฝรั่งเศสเข้าสู่ยุคสมัยที่เข้มแข็งที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น