วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โจเซฟ สตาลิน ผู้นำของสหภาพโซเวียต

โจเซฟ สตาลิน ผู้นำของสหภาพโซเวียต เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
ชื่อจริงของเขาคือ Ioseb Besarionis dze Jughashvili เกิด 3 เมษายน 1922 ที่เมือง โกรี ประเทศจอร์เจีย รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐของจักรวรรดิรัสเซียสมัยนั้น เขาก็เป็นชาวจอร์เจียนโดยกำเนิด สืบทอดอำนาจต่อจาก วลาดีมีร์ เลนิน ผู้นำนักปฏิวัติ คนแรกของสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ. 1924 เป็นผู้ที่ทำให้โซเวียตเป็นขั่วอำนาจในสงครามเย็น ผู้ออกก็หมาย ให้ศาสนาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในรัฐคอมมิวนิสต์ บทบาทของพระเจ้าก็ถูกเล่น ระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง ผู้นำของสหภาพโซเวียต เขาถูกเรียกว่า บิดาแห่งชาวสหภาพโซเวียตทั้งปวง แต่เดิมชีวิตของเขา สตาลินต้องประกอบอาชีพต่าง ๆ เพื่อการดำรงชีวิต ตั้งแต่เป็นครู และเป็นเสมียน เขาเริ่มเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในจอร์เจีย เพื่อเผยแพร่แนวคิดของเขา จนถึง ค . ศ . ๑๙๐๑ เขาก็เข้าร่วมกับพรรคสังคมประชาธิปไตยแรงงานรุสเซียอย่างเป็นทางการ และร่วมเคลื่อนไหวจัดตั้งกรรมกร ผลักดันให้กรรมกรนัดหยุดงาน เขาจึงถูกจับกุมใน ค . ศ . ๑๙๐๒ ถูกขังอยู่ ๑๘ เดือน และถูกเนรเทศไปยังไซบีเรีย แต่ปรากฏว่าเขาหนีกลับมาได้ และเข้าร่วมในฝ่ายบอลเชวิค ซึ่งเป็นกลุ่มในพรรคสังคมประชาธิปไตยที่ สนับสนุนวลาดิมีร์ เลนินค . ศ . ๑๙๑๓ สตาลินถูกจับอีกครั้ง และถูกเนรเทศไปไซบีเรียตลอดชีวิต แต่การปฏิวัติในเดือนกุมภาพันธ์ ค . ศ . ๑๙๑๗ ทำให้นักโทษการเมืองทุกคนได้รับการนิรโทษ สตาลินได้กลับมาเป็นบรรณาธิการหนังสือปราฟดาของพรรคบอลเชวิค และต่อมาได้ร่วมการปฏิวัติในเดือนตุลาคม ค . ศ . ๑๙๑๗ อันนำมาซึ่งการสถาปนาอำนาจของพรรคบอลเชวิกหลังการปฏิวัติ สตาลินได้รับการแต่งตั้งเป็นคอมมิสซาร์ชนกลุ่มน้อย รับผิดชอบชนชาติต่าง ๆ ที่อยู่ในจักรวรรดิรุสเซีย โดยมีเป้าหมายให้กลุ่ม ชนเหล่านี้ มีสิทธิในการปกครองตนเองภายในโซเวียต จึงได้สนับสนุนให้กลุ่มชนต่าง ๆ ตั้งพรรคคอมมิวนิสต์และเข้าร่วมการปฏิวัติ โดยรบกับฝ่ายขาวและกลุ่มอื่น ๆ ที่พยายามทำลายการปฏิวัติรุสเซียในการประชุมสมัชชาพรรค ค . ศ . ๑๙๒๒ ด้วยความทะเยอทะยานทำให้สตาลินได้เริ่มมีบทบาทสำคัญในพรรคบอลเชวิค โดยสตาลินได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสำนักเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งขึ้นใหม่ เพื่อช่วยงานเลนิน ปรากฏว่าหลังจากนี้ เลนินเริ่มป่วยมากขึ้น ทำให้งานประจำภายในพรรคต้องตกอยู่ในความดูแลของสตาลินมากขึ้นเลนินถึงแก่กรรมในวันที่ ๒๔ มกราคม ค . ศ . ๑๙๒๔ จึงได้รับสืบอำนาต่อ
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้นกับรัสเซีย ปี ค.ศ. 1941 - ค.ศ. 1945 เขานำโซเวียตชนะสงคราม โดยประชาชนเสียชีวิต 20 ล้านคน ทหารเสียชีวิต 10 ล้านคน
การปกครองของสตาลินไม่เท่าฮิตเลอร์แต่ก็เผด็จการพอๆกัน เขาจัดการกับผู้ต่อต้านโดยการทรมาณระยะหนึ่งจนผู้ต่อต้านสำนึกผิดเขาจึงขอให้เข้าร่วมกองทัพกับเขาด้วย แต่หากไม่ยอมเข้าร่วมก็ต้องใช้วิธีที่ใช้มาแต่โบราณ คือ การสั่งประหาร ด้วยวิธีการหลายอย่าง
เรียกได้ว่าเปํนผู้ที่ทรงอิทธิพลระดับตำนานของโลกกับประชาชนของประเทศตนแล้วดูแลได้อย่างทั่วถึงนั่นคือเหตุผลที่หลายคนให้ความเคารพเขา แต่ในอีกด้านหนึ่ง สตาลินก็ ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่เหี้ยมโหดพอๆกับฮิตเลอร์ ว่าด้วยเรื่องการกวาดล้างครั้งใหญ่ระหว่าง ค . ศ . ๑๙๓๕ - ๑๙๓๙ ซึ่งทำให้มีผู้ล้มตายและหายสาบสูญจำนวนมากเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยการใช้แผนการขั้นสูงที่ใช้เวลาเตรียมการหลายเดือนคือ ยุทธการสตาลินกราด เป็นยุทธการใหญ่ของสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ใช้ทำสงครามกับนาซีเยอรมนีและพันธมิตรฝ่ายหนึ่งใน วันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1942 สตาลินก็นำสหภาพโซเวียตเข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตร ทำให้โซเวียตอยู่ในฐานะผู้ชนะสงคราม และกลายเป็นหนึ่งในสองอภิมหาอำนาจของโลก
เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1953 หลังสตาลินตาย ครุฟซอฟ ผู้นำคนใหม่ได้ผ่อนคลายความเข้มงวดในระบบสตาลินลง พร้อมทั้งประณามขุดคุ้ยความโหดร้ายของเจ้านายคนเก่าของเขา จนในที่สุดทุกๆ ที่ ที่มีรูปปั้นสตาลินถูกทุบทิ้ง เพลงชาติถูกลบชื่อของเขาออก ศพของเขาถูกย้ายจากข้างๆ เลนิน ไปฝังอยู่ในกำแพงวังเครมลิน
เพิ่มนิดๆ โจเซฟ สตาลิน เป็นชื่อจัดตั้ง เดิมชื่อ โจซิป ดูกาสลี (Josip Djugashvili)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น